ขอบคุณรูปภาพจาก pinterest
เบียร์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยอดฮิตของคนทั้งโลกไม่ว่าจะเป็นคนประเทศไหนก็จะมีเบียร์เป็นเครื่องดื่มที่ต้องมีไว้ในแต่ละประเทศ เบียร์นั้นที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน จนอาจย้อนไปถึงต้นกำเนิดที่สามารถย้อนไปได้ถึงหมื่นปีตั้งแต่ยุคหิน ซึ่งมนุษย์เริ่มนำธัญพืชมาหมักทำให้เกิดเป็นเครื่องดื่มชนิดใหม่ ๆ ขึ้นมา
กรรมวิธีการผลิตเครื่องดื่มประเภทนี้ปรากฏอยู่หลายภูมิภาคทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในจีนเมื่อราว ๆ 7,000 ปีก่อน หรือบริเวณเทือกเขาซากรอสที่มีชาวเคิร์ดอาศัยอยู่ ก็พบหลักฐานทางเคมีที่คล้ายเบียร์ปรากฏในเหยือกโบราณ ตรวจสอบแล้วย้อนกลับไปได้ 3,500 ปีก่อนคริสตกาลเลยทีเดียว
คงจะเป็น “เบียร์อียิปต์” และนี่คือที่มาของมัน ก่อนหน้าอียิปต์เมื่อม่นาน เบียร์ได้รับความนิยมอย่างมากในเมโสโปเตเมีย เชื่อกันว่าอาจมีการผลิตมาตั้งแต่ประมาณราว 3,500 - 3,100 ปีก่อนคริสตกาล บ้างว่า 6,000 ปีก่อนคริสตกาลด้วยซ้ำไป จากนั้นเบียร์จึงค่อยเผยแพร่สู่อียิปต์โบราณในช่วงยุคเดียวกัน
แต่เบียร์ของเมโสโปเตเมียจะมีลักษณะข้นมาก ๆคล้ายข้าวต้ม ส่วนเบียร์อียิปต์จะมีความนุ่มกว่า ดื่มง่ายกว่า จึงทำให้มีชื่อเสียงกว่า จนทำให้มีคำกล่าวว่า เบียร์อียิปต์เป็นเบียร์จริงๆ ชนิดแรกของโลก และตำนานการกำเนิดเบียร์อียิปต์มีหลายที่มา บ้างก็เล่ากันว่าเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ โอไซริส เป็นผู้สอนให้มนุษย์รู้จักศาสตร์การผลิตเบียร์นี้ด้วยตนเอง
แต่อีกตำนานหนึ่งนั้นกล่าวว่า สุริยเทพ รา ได้สั่งลงโทษมนุษย์ที่คิดทรยศโดยการส่งบุตรสาว ฮาเธอร์ ลงไปล้างเผ่าพันธุ์ให้สิ้น แต่ปรากฏว่าเทพราเกิดเปลี่ยนใจขึ่นมา เมื่อเห็นฮาเธอร์ฆ่ามนุษย์และดื่มเลือดไปมากมายจนกลายเป็นปางเทพีนักรบหัวสิงห์ เซกห์เมต เทพีเซกห์เมต มีหัวเป็นนางสิงห์ บางตำรากล่าวว่านางเป็นลูกของฮาเธอร์อีกที ไม่ใช่ปาง
เทพองค์อื่นๆ กล่าวว่านางคงไม่ยอมหยุดอย่างแน่ เทพราเลยจำต้องเสกเบียร์ขึ้นมาแล้วย้อมเป็นสีแดง ลงไปขวางทางเซกเมต นางสิงห์กระหายเลือดกำลังหน้ามืดตามัว ไม่ทันสังเกตว่าของตรงหน้าไม่ใช่เลือด จึงดื่มเบียร์จนหมดแล้วเมาหลับไป
เมื่อเซห์กเมตฟื้นสติขึ้นมาก็กลับกลายเป็นฮาเธอร์ดังเดิม ไม่ออกอาละวาดใส่กับมนุษย์อีก จากนั้นชาวอียิปต์จึงนำเบียร์ไปใช้ในงานฉลอง ก่อนจะแพร่หลายเป็นเครื่องดื่มในชีวิตประจำวัน จนเราเป็นที่รู้จักกันในทุกววันนี้
ทว่าเบียร์อียิปต์ก็ไม่ได้เหมือนในยุคปัจจุบันเสียทีเดียว เพราะมันทำมาจากขนมปัง ขนมปังของอียิปต์นั้นมักผลิตมาจากข้าวเอมเมอร์และข้าวบาร์เลย์ผสมกับยีสต์ บ้างก็ว่าผสมมอลต์ไปด้วย โดยชาวอียิปต์ยุคอาณาจักรเก่า 2,613 - 2,181 ปีก่อนคริสตกาล นั้นด้นำส่วนผสมชนิดเดียวกันมาผลิต “ขนมปังเบียร์” ก้อนแป้งที่ผ่านความร้อนเล็กน้อยแบบยังไม่ทันสุกดีเป็นขนมปัง ก่อนจะบิทำมันเป็นชิ้น ๆ แล้วกรองผ่านน้ำ อาจเพิ่มรสด้วยอินทผาลัม จากนั้นนำไปหมักไว้ในเหยือก
วิธีการนี้ทำให้เบียร์อียิปต์ยังมีสัณฐานข้นกว่าปัจจุบันอยู่ แต่ไม่มากเท่าของเมโสโปเตเมีย เทียบกันแล้วอาจได้อารมณ์ประมาณน้ำเต้าหู้บ้านเราที่มีความเข้มข้น การผลิตขนมปังและเบียร์มักทำโดยสตรีเป็นส่วนมาก จากการพบหลักฐานเป็นรูปปั้นของหญิงสาวกำลังนวดแป้งอยู่นั้นเอง
เทพแห่งการทำเบียร์เองก็เป็นหญิงนามว่า เทเนเนต์ สอดคล้องกับคำเรียกเบียร์ในภาษาอียิปต์ว่า เทเนมู ทั้งนี้เบียร์ก็มีคำเรียกอื่นๆ ด้วย เช่น เฮเคต, คา-อาห์เมต เป็นต้น ทำให้มีผู้คาดว่า เบียร์อียิปต์น่าจะมีหลายแบบ เชื่อกันว่าในยุคต่อมา มีการนำข้าวเอมเมอร์และข้าวบาร์เลย์มาผสมน้ำโดยตรง จากนั้นทำการเทลงไห แล้วนำไปผ่านความร้อนให้เกิดปฏิกิริยาเหมือนการหมัก ในต่อมาค่อยผสมสมุนไพรหรือผลไม้ลงไปเพื่อสร้างเบียร์ชนิดต่างๆ ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ก่อนเททั้งหมดลงเหยือกเซรามิกแล้วปิดผนึกเก็บไว้ โดยมากจะทำกันในใต้ดิน มีความคล้ายกับปัจจุบันมากขึ้น
เบียร์อียิปต์เป็นเครื่องดื่มสำหรับทุกชนชั้น ยิ่งใช้ในพิธีการหรืองานฉลอง แอลกอฮอล์ยิ่งสูง ยิ่งดี และเบียร์ไม่จำเป็นต้องหมักจนมีแอลกอฮอล์มากเสมอไป จึงทำให้สามารถดื่มได้ทุกเพศทุกวัย ทั้งนี้ไม่มีการห้ามเด็กและผู้หญิงดื่ม “เครื่องดื่มมึนเมา” อย่างเช่นสมัยโรมัน
นอกจากนั้นแล้ว เบียร์อียิปต์ยังดื่มได้ทุกวัน เพราะมีสารอาหารจำพวกโปรตีน, แร่ธาตุ และวิตามินสูง อีกทั้งยังนำมาใช้ในการแพทย์ได้ด้วย เพราะเชื่อที่ว่าทำให้วิญญาณร้ายมึนงง ไม่มารังควานทำให้เกิดโรคภัย แม้ในยุคต่อมา อียิปต์จะถูกชาวมุสลิมซึ่งไม่ดื่มของมึนเมายึดครอง แต่ความนิยมในการจิบเบียร์ของชาวอียิปต์ก็ไม่ได้เสื่อมลงไปแต่อย่างใด
พวกเขาอาจไม่ได้สังสรรค์อย่างออกนอกหน้าเหมือนเช่นเมื่อก่อน แต่ก็ยังดื่มกันเป็นกิจวัตรมาจนถึงปัจจุบัน แถมชาวมุสลิมบางคนก็ยังแอบซื้อมาชิมเสียเองอีกต่างหาก จะมีห้ามเป็นกฎหมายจริงๆ ก็มีเพียงช่วงเดือนรอมฎอนเพียงเท่านั้น
ทั้งหมดนี่เองคือจุดเริ่มต้นของเบียร์แบบที่เรารู้จักกัน ในปัจจุบัน ซึ่งได้ผ่านการพัฒนามายาวนานหลายหมื่นหลายพันปีกว่าจะเป็นเบียร์ที่เรารู้จักกันและมักดื่มกันในงานสังสรรค์นั้นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก บาคาร่า เกมส์บาคาร่า คาสิโน