ช่วงวันหยุดยาวสิ้นปีที่ผ่านมานั้นนั้น ผู้คนส่วนใหญ่มักจะกลับบ้านเพื่อไปเยี่ยมพ่อแม่ต่างจังหวัด หรือว่าเดินทางไปเที่ยว ซึ่งมีผู้คนเดินทางสัญจรในช่วงเวลาดังกล่าวที่ค่อนข้างมาก และทำให้การจราจรติดเป็นเป็นหลาย 10 กิโลกันเลย ดั้งนั้น เรามาดูกันว่า ถนนเส้นที่เอาไว้เลี่ยงรถติดช่วงเทศกาล จะมีเส้นไหนบ้าง โดยที่เราได้นำมาบอกกันแล้ว
เดินทางต่างจังหวัด
ภาคเหนือ มีเส้นทางในการเลี่ยงรถติดอยู่ 5 เส้นทาง ก็คือ
เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ไปรังสิต – ต่างระดับคลองหลวง (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – เชียงรากน้อย (ทางหลวงหมายเลข 3214) – ทางหลวงหมายเลข 347 จากนั้นมุ่งหน้าสู่ทางหลวงหมายเลข 32 เข้าสู่ภาคเหนือ
เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ ไปวงแหวนตะวันออก (ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9) – ต่างระดับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) – วังน้อย (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – ถนนโรจนะ (ทางหลวงหมายเลข 309) จากนั้นมุ่งหน้าสู่ทางหลวงหมายเลข 32 เข้าสู่ภาคเหนือ
เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯ ไปรังสิต (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – พระนครศรีอยุธยา – อ่างทอง – สิงห์บุรี (ทางหลวงหมายเลข 32 ถนนสายเอเชีย) – อ.มโนรมย์ (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์
เส้นทางที่ 4 จากกรุงเทพฯ ไปนนทบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง – สุพรรณบุรี) – สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 สุพรรณบุรี – ชัยนาท) – ชัยนาท (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์
เส้นทางที่ 5 จากกรุงเทพฯ ไปรังสิต – วังน้อย – สระบุรี – ลพบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – ตากฟ้า (ทางหลวงหมายเลข 11) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดพิษณุโลก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเส้นทางในการเลี่ยงรถติดอยู่ 4 เส้นทาง ก็คือ
เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ไปสระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – ม่วงค่อม (ทางหลวงหมายเลข 205) – ท่าหลวง (ทางหลวงหมายเลข 2256) – ด่านขุนทด (ทางหลวงหมายเลข 2148) – ขามทะเลสอ (ทางหลวงหมายเลข 2068) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา
เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ ไปวังน้อย (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – สระบุรี – ปากช่อง – สีคิ้ว (ทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา
เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯ ไปนครนายก (ทางหลวงหมายเลข 305) – บ้านนา (ทางหลวงหมายเลข 3051) – แก่งคอย (ทางหลวงหมายเลข 3222) – ปากช่อง (ทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา หรือจากบ้านนาไร่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 33 มุ่งหน้าสู่กบินทร์บุรี และสามารถเดินทางสู่ปลายทางอย่างอรัญประเทศได้
เส้นทางที่ 4 จากกรุงเทพฯ ไปฉะเชิงเทรา (ทางหลวงหมายเลข 314 หรือ ทางหลวงหมายเลข 304) – พนมสารคาม – กบินทร์บุรี – วังน้ำเขียว – ปักธงชัย (ทางหลวงหมายเลข 304) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา
รถติด
ภาคตะวันออก มีเส้นทางในการเลี่ยงรถติดอยู่ 3 เส้นทาง ก็คือ
เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ไปชลบุรี (ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สาย กรุงเทพฯ – ชลบุรี – พัทยา)
เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ ไปพนัสนิคม – จ.ชลบุรี (ทางหลวงหมายเลข 304)
เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯ ไปบางปะกง (ทางหลวงหมายเลข 34 ถนนบางนา-ตราด) มุ่งหน้าสู่จังหวัดชลบุรี โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ถนนสุขุมวิท
ภาคใต้ มีเส้นทางในการเลี่ยงรถติดอยู่ 3 เส้นทาง ก็คือ
เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ไปสมุทรสาคร – สมุทรสงคราม (ทางหลวงหมายเลข 35) – แยกวังมะนาว – เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ ไปถนนบรมราชชนนี (ทางหลวงหมายเลข 338 ปิ่นเกล้า – นครชัยศรี) – นครชัยศรี – นครปฐม – ราชบุรี – แยกวังมะนาว – เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯ ไปสามพราน – นครชัยศรี – นครปฐม – ราชบุรี – แยกวังมะนาว – เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
นอกจากนี้ กรมทางหลวงยังเตรียมเส้นทางเลี่ยงสำหรับการเลี่ยงใช้ ทล.35 หรือ ถนนพระราม 2 โดยให้ใช้ ถนนเพชรเกษม เข้าถนนเศรษฐกิจแล้วเข้าสู่ถนนพระราม 2 ที่ทางแยกต่างระดับสมุทรสาคร หรือจากถนนกาญจนาภิเษก ใช้ถนนเอกชัย – บางบอน เข้าถนนพระราม 2 ที่กม. 21 (บริเวณมหาชัยเมืองใหม่) หรือ ใช้ถนนเพชรเกษม ผ่านอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เพื่อเข้าสู่จังหวัดภาคใต้ต่อไป
ผู้ขับขี่สามารถแสกน QR Code เพื่อตรวจสอบข้อมูลเส้นทางได้อย่างละเอียดยิ่งขึ้นผ่านสมาร์ทโฟนและตรวจสอบเส้นทางได้แบบเรียลไทม์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สายด่วนกรมทางหลวง โทร 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) ศูนย์บริการข้อมูลทางหลวงพิเศษ (Motorway) 1586 กด 7 และ ตำรวจทางหลวง 1193
ก่อนออกเดินทาง พยายามเผื่อเวลาในการเดินทางเอาไว้ด้วย และอย่าลืมที่จะดูแลสภาพรถของคุณให้พร้อมกับการเดินทางข้ามต่างจังหวัดที่ใช้เวลาในการเดินทางที่นานแสนนานในช่วงรถติด และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ตัวของผู้ขับขี่เอง ต้องมีความพร้อมอยู่เสมอ พยายามพักผ่อนให้เพียงพอก่อนการเดินทาง และ ถ้าหากง่วงเวลาขับ อย่าฝืน ให้จอดพัก หรือเปิดโรงแรมนอนพัก เพื่อความหวังดีจากเรา
เวลาขับนั้นอย่าลืมทำตามกฎจราจรด้วย เพื่อลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น ให้ใช้ความเร็วอยู่ที่ระหว่าง 90-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วแต่ความเร็วของถนนที่คุณขับ ขับรถขึ้นเขาลงเขาถ้าเป็นไปได้ก็อย่าแซงกันเลย ค่อย ๆ ไปก็ถึงเหมือนกัน ความเร็วที่ต่างกันมาก ไม่ได้ทำให้คุณถึงจุดหมายเร็วขึ้นกว่าเดิมมากเท่าไหร่ เพราะยังไง คุณขับไปรถก็ติดอยู่ดี ๆ แถมทำให้เปลืองน้ำมันกว่าเดิมอีก ค่อย ๆ ไปอย่างปลอดภัย ดีกว่ารีบไปแต่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ