ก่อนหน้าที่ผ่านมาเรามีคำนิยามว่า ‘คนที่สูบบุหรี่จัด’ สำหรับผู้ที่นิยมสูบบุหรี่เป็นชีวิตจิตใจ แต่ว่าในปัจจุบันเรามีคำเรียกใหม่หมายถึง‘Vaper’ อันเป็นกลุ่มคนที่นิยมสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งยังไม่มีคำเฉพาะในการโจษขานกลุ่มนักสูบที่ยุคดิจิทัลนี้เท่าไหร่ แล้วก็ปัจจุบันยังมีเทรนด์ใหม่ที่ ‘อยู่ตรงกลาง’ ระหว่างของเก่ารวมทั้งของใหม่ เป็นลูกผสมของบุหรี่ทั่วๆไปแล้วก็บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก แต่ว่าปัจจัยด้านสุขภาพยังคงถูกถามถึงผู้ใช้แล้วก็ผู้ที่เสี่ยงสูดควันบุหรี่มือสอง
นักสูบวัยรุ่นเริ่มหันไปสูบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เรียกว่า เครื่อง HNB ย่อจาก heat-not-burn ซึ่งแทนที่เครื่องสูบบุหรี่นี้จะเผาไหม้มวนยาสูบแบบเก่า แต่กลับค่อยๆเพิ่มความร้อนให้บุหรี่อุ่นขึ้นเรื่อยๆจนถึงปล่อยหมอกควันนิโคตินและก็สารประกอบอื่นๆเพื่อให้ผู้ใช้สูดเข้าไปในร่างกาย เป็นลูกผสมระหว่างบุหรี่มาตรฐานและก็บุหรี่ไฟฟ้า ดีไซน์เป็นหลอดแล้วสอดบุหรี่เข้าไป พกพาสะดวก ใช้งานง่าย แม้ตัวเครื่องจะเริ่มวางจำหน่ายมาแล้วยาวนานหลายปี แต่ว่าผู้ผลิตเพิ่งเริ่มหาช่องทางในการ PR อย่างหนักหน่วงเพื่อเรียกนักสูบหน้าใหม่สาย Vape
บริษัทที่ลุยเป็นรายแรกคือ Philip Morris International ที่เริ่มออกขายเครื่องสูบ HNB ในชื่อเก๋ไก๋ IQOS ย่อจาก I Quit Ordinary Smoking (ฉันเลิกสูบบุหรี่แบบเดิมๆแล้ว) กล่าวได้ว่าเป็นแคมเปญนำโด่งอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา อย.ของสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้อนุมัติให้เครื่องสูบบุหรี่รูปแบบใหม่นี้วางขายได้อย่างถูกตามกฎหมาย ทางบริษัท Philip Morris International อ้างว่า สินค้านี้เป็นที่นิยมสูงใน 41 ประเทศทั่วโลก แล้วก็มีผู้ใช้มากถึง 10 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นอดีตนักสูบที่เลิกไปแล้ว หรือเคยสูบบุหรี่แบบเดิมๆมาก่อน
แคมเปญการตลาดของ Philip Morris International พยายามดึงให้ผู้ใช้หันมาสูบบุหรี่แบบ heat-not-burn โดยพูดถึงคุณประโยชน์ที่ส่งผลลบต่อสุขภาพน้อยกว่าบุหรี่มาตรฐานที่ใช้การเผาไหม้ แต่ว่าแน่นอนว่าคำกล่าวอ้างด้านสุขภาพนั้น ยังเป็นที่ถกเถียงไม่ต่างอะไรจากเทรนด์ ‘สูบบุหรี่ไฟฟ้า’ อย่างที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้
บุหรี่ heat-not-burn นี้ช่วยทำให้คนเลิกบุหรี่ หรือไปๆมาๆส่งผลให้เกิดนักสูบหน้าใหม่กันแน่ และก็ผลจากการใช้ระยะยาวล่ะ? คำถามพวกนี้สำคัญทีเดียวที่บริษัทผลิตยาสูบจะต้องตอบให้แจ่มชัด แต่บริษัทผู้ผลิตส่วนใหญ่ระบุว่า เครื่องสูบบุหรี่ HNB เน้นไปที่ผู้ดูดบุหรี่อยู่แล้ว แต่ว่ายังลังเลว่าจะหันไปสูบบุหรี่ไฟฟ้าดีไหม หรือคนที่ไปสาย Vape แล้วไม่ถูกใจ ต้องการหวนกลับมาอ้อมกอดของบุหรี่ที่อัพเกรดด้วยเทคโนโลยีบางส่วน
เอาเข้าจริงแนวความคิดการอุ่นให้บุหรี่ร้อนแทนการเผาไหม้นั้นก็ไม่ใช่ของใหม่ ย้อนไปถึงปีค.ศ. 1988 เมื่อบริษัท R. J. Reynolds Tobacco Company ผลิตรุ่นต้นแบบขึ้นมา แต่ว่าล้มพับไม่เป็นท่า ด้วยเหตุว่าบางทีอาจเป็นนวัตกรรมที่ ‘มาก่อนกาล’ บวกกับการ PR ที่ล้มเหลว ทำให้เลิกผลิตไปอย่างรวดเร็ว อุตสาหกรรมบุหรี่เองก็พยายามสนับสนุนมาตลอดอีกหลายปี แต่ว่านักสูบบุหรี่จำนวนมากยังเป็นอนุรักษ์นิยม พวกเขารังเกียจให้อะไรมาเปลี่ยนแปลงบุหรี่ที่เปรียบเสมือนเป็นวัตนธรรมศักดิสิทธิ์หลายร้อยปี บริษัทผู้ผลิตในสมัยนั้นก็เลยพยายามดันจุดขายว่า เครื่อง HNB ช่วยลดเถ้า ลดกลิ่นเหม็นติดเสื้อ แต่ว่าก็ไม่ช่วยทำให้ยอดจำหน่ายดีขึ้นเท่าไรนัก
ผ่านมากว่า 20 ปี ก็เลยมีบริษัทผู้ผลิตเอาเทคโนโลยีนี้มาปัดฝุ่นใหม่ เปลี่ยนแปลงการ PR เป็น ‘เน้นสุขภาพ’ เพิ่มมากขึ้นตามกระแส Healthy Life ที่แม้แต่นักสูบเองก็ต้องการจะมีสุขภาพดีกับเขาด้วย การเลิกสูบบุหรี่ ด้วยเหตุว่าตรรกะสำคัญๆของสารบ่อนทำลายสุขภาพในยาสูบโดยมากเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากวิธีการเผาไหม้ ซึ่งเครื่องสูบบุหรี่ HNB บอกว่า ช่วยลดสารอันตรายพวกนี้ได้ แต่ว่ายังคงรักษา signature ของสารนิโคตินรวมทั้งรสชาติของบุหรี่ดั้งเดิมที่เหล่านักสูบอยาก แล้วก็ที่สำคัญ HNB มีสิ่งที่เอาชนะบุหรี่กระแสไฟฟ้าได้เป็น ความรู้สึก ‘Throat Hit’ ที่บุหรี่ไฟฟ้ามอบให้ไม่ได้ อันเป็นเอกลักษณ์ของยาสูบดั้งเดิมที่เมื่อสูบ กลุ่มควันจะปะทะเข้ากับลำคอซึ่งเป็นความรู้สึกที่นักสูบติดใจ
อย่างไรก็แล้วแต่ เครื่องสูบ HNB ในชื่อทางการค้า IQOS ที่อ้างถึงว่าปลอดภัย กลับไม่ได้ปลอดภัยซะทีเดียว เพียงช่วยลดความเสี่ยงบางประการได้ ซึ่งในบุหรี่มีสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพราว 58 ชนิดเมื่อเผาไหม้ ซึ่งเครื่อง HNB จะช่วยลดสารดังที่กล่าวมาแล้วลงราว 90% แต่ว่าใจความสำคัญที่จำเป็นต้องขยิบตาข้างหนึ่งไว้หน่อย เพราะเหตุว่าการวิจัยด้านคุณประโยชน์ เครื่องสูบบุหรี่ HNB นั้น มาจากงานศึกษาค้นคว้าวิจัย 11 โครงงาน ที่ 10 แผนการมาจากทุนวิจัยที่ช่วยเหลือโดยบริษัทผู้ผลิตยาสูบเอง ก็ลองมีความคิดว่าการวิจัยที่มาจากใบสั่งของบริษัทบางทีก็อาจจะมอง ‘โน้มน้าว’ ใครๆน้อยไปหน่อยถ้าหากทราบตื่นลึกหนาบาง
ยังมีการตั้งคำถามอีกว่า เครื่องสูบบุหรี่ HNB แม้จะลดอันตรายจากควันบุหรี่ลงนิดนึง แต่ว่าบางทีอาจเกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่บางทีอาจทำให้เกิดโรคอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับบุหรี่โดยตรง รวมทั้งผู้ผลิตเองก็ยังไม่อาจจะโน้มน้าว FDA ได้ว่าเครื่อง HNB นี้ไม่มีอันตราย โดยเหตุนั้นผู้สร้างก็เลยไม่อาจจะใช้คำว่า ‘Safer’ (ปลอดภัยกว่า) ในเชิงการค้าได้ แต่ว่าจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงเป็น ‘modified risk tobacco product’ หรือ “สินค้ายาสูบที่ปรับแต่งความเสี่ยงแล้ว
จากงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยของมหาวิทยาลัย Sorbonne University ในกรุงปารีสพบว่า แทนที่จะช่วยทำให้คนเลิกบุหรี่ กลับทำให้กลุ่มคนที่ไม่สูบบุหรี่ (nonsmoker) หันมาสูบบุหรี่เพิ่มมากขึ้นถึง 69% ยิ่งเป็นหลักฐานที่บ่งชัดว่า HNB ไม่ได้ช่วยทำให้คนเลิกบุหรี่ แต่ว่าก็รู้ๆกันว่า อุตสาหกรรมยาสูบกำลังจะมียอดผลิตน้อยลงทั้งโลก สิ่งใหม่อะไรที่ทำให้บริษัทยืนหยัดถัดไปได้ก็จะต้องทำแบบไม่มีทางเลือกเท่าไรนัก แต่ว่าถ้าเกิดถามว่า สิ่งใหม่อะไรจะไม่มีอันตรายต่อร่างกายที่สุดสำหรับนักดูด ‘การเลิกสูบบุหรี่’ คงจะเป็นนวัตกรรมที่เหมาะสมที่สุด
อ่านบทความอื่นๆต่อไปที่ lucabet