เย้ ๆ เข้าหน้าหนาวกันแล้ว สำหรับพวกทางนั้นชอบเอามาก ๆ ไม่ได้สัมผัสกับอาการหนาวมานานมากแล้ว แต่สำหรับพวกน้องแมวนั้น อาจจะไม่ได้ชอบเสมอไปนะ เพราะช่วงหน้าหนาวนี้ น้อง ๆ จะเอาแต่นอนทั้งวัน ขนาดไปกวนก็แล้วน้องก็ไม่ยอมลุกง่าย ๆ จะบอกไว้ว่าให้คุณลองสังเกตดี ๆ อาจจะพบว่าน้องแมวของคุณไม่ได้นอนเพราะหนาวเพียงอย่างเดียว เพราะในบางทีนั้น น้องอาจะป่วยอยู่ก็เป็นได้ ซึ่งมีวิธีแยกระหว่างมะแมวขี้เซากับมะแมวไม่สบายเยอะมากเลย เพราะฤดูนี้มีโรคที่น่ากลัวสำหรับมะแมวเยอะมาก ๆ เลย ถ้าน้องเป็นทีก็อาจอันตรายถึงชีวิตได้เหมือนกัน การดูแลน้องแมวดังนั้นอย่าลืมสังเกตด้วยนะ
มะแมว
เกิดจากมะแมวสัมผัสกับอากาศเย็นโดยตรง โดยเฉพาะขณะขนเปียกหรือแช่ในน้ำเย็นจึงทำให้อุณหภูมิของร่างกายมะแมวลดลงอย่างรวดเร็ว จึงส่งผลให้การเต้นของหัวใจและการหายใจช้าลง
อาการ
มะแมวจะมีอาการตัวสั่นอย่างรุนแรงเพื่อพยายามให้ร่างกายตัวเองอบอุ่น หูและปลายเท้าของมะแมวจะเย็นกว่าปกติมาก ๆ ถ้าหากมีอากาศหนาวจัด อาจจะทำให้เกิดเป็นแผลได้เลย และมะแมวจะมีอาการซึม การเต้นของหัวใจช้าลง อาจจะหนักถึงเสียชีวิตเลย
การป้องกัน
หากช่วงไหนที่อากาศหนาวจัด ต้องพาน้องเข้ามาอยู่ในที่อุ่น ๆ อย่างในบ้านหรือถ้าอยู่นอกบ้านต้องหาที่อบอุ่น แห้ง และลมหรือฝนไม่โดนน้อง ๆ หรืออาจหาชุดในมาให้น้องแมวใส่ก็ได้
การรักษา
ถ้าหากว่าน้องมีอาการอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ ต้องรีบทำให้ตัวน้องแห้งและอุ่นโดยเร็วที่สุด เช่น หาผ้าห่มมาหุ้มตัวน้องเอาไว้ หรืออาจจะให้ความร้อนจากภายนอก เช่น พาน้องออกแดดอุ่น ๆ พาน้องไปผิงไฟ และหากว่าอุณหภูมิลดต่ำจนเกิดอาการรุนแรงมากต้องทำการให้สารน้ำอุ่นเข้าทางเส้นเลือด รวมถึงการสวนทวารด้วยน้ำอุ่น แต่วิธีการนี้อาจต้องให้คุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญช่วย
เกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งเป็นไวรัสจำเพาะในแมว (FVRC) (FHV) (FCV) นอกจากนี้ยังอาจมีการติดเชื้ออื่น ๆ แทรกซ้อนอีกด้วย ซึ่งหวัดแมวจะพบบ่อยในช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง ฤดูหนาว และฤดูฝน เป็นหลัก
อาการ
พฤติกรรมแมวจะมีน้ำตาไหล ไอ มีน้ำมูก ซึม เบื่ออาหาร หายใจลำบาก หากรุนแรงมากก็ถึงขั้นปอดบวมและเยื่อหุ้มปอดอักเสบทำให้เสียชีวิตได้เลยแหละจ้ะ
การป้องกัน
ควรพาน้องไปฉีดวัคซีนป้องกันโรค หากมีมะแมวตัวไหนป่วยควรแยกน้องออกจากมะแมวตัวอื่น ๆ และดูแลรักษาความสะอาด เช่น เช็ดขี้มูกขี้ตาอย่าให้เกรอะกรัง ภาชนะใส่อาหารและน้ำต้องสะอาดอยู่เสมอ รวมถึงควรให้ความอบอุ่นต่อร่างกายหากเกิดอากาศหนาวเย็นจ้ะ
การรักษา
สำหรับโรคนี้ไม่มียารักษาโดยตรง ดังนั้นเจ้าของจึงต้องรีบพาไปหาสัตวแพทย์เพื่อวินิฉัยเบื้องต้นก่อนว่ามะแมวป่วยเป็นโรคนี้หรือไม่ โดยจะใช้ยาปฏิชีวนะป้องกันโรคแทรกซ้อนจากแบคทีเรีย รวมทั้งให้ยาลดเสมหะ แต่จะขึ้นอยู่กับเคสของน้องแต่ละตัวด้วยนะ
ก่อนที่จะเกิดอาการดังกล่าวนั้น เจ้าของอย่างเรา ๆ ก็ต้องดูแลในเรื่องของที่อยู่ของน้องก่อน เพราะถือเป็นปัจจัยหลักที่จะส่งผลให้น้องป่วยเลย เรามาดูกันเลยดีกว่า
น้องแมว
ให้นำผ้าไปวางไว้ที่พื้น หรือบริเวณที่นอนของน้อง จะช่วยให้เวลานอนจะได้รู้สึกอบอุ่นกว่าเดิม เพราะช่วงอากาศเย็น พื้นก็จะเย็นตามไปด้วย โดยเฉพาะพื้นที่เป็นกระเบื้อง ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับการที่ให้น้องแมวนอนบนพื้นปกติ แต่ส่วนมาก ถ้าน้องหนาวมาก ๆ เขาจะปีนมานอนด้วยกับเรา น้องบอกว่านอนด้วย เค้าหนาวววว
บางครั้งมีลมเย็น การได้ลงไปอยู่ในกล่อง หรือว่า อยู่บนคอนโดแมวที่เป็นช่องที่เอาไว้หลบลม นอกจากที่จะเหมือนบ้านหลังน้อยๆ เอาไว้บังลมแล้ว ยังทำให้น้องรู้สึกปลอดภัยอีกตังหาก เพราะน้องจะชอบที่เล็ก ๆ
มาถึงช่วงหน้าหนาว ดูแลแมวอย่าลืมซื้อเสื้อผ้าให้น้องแมวใส่ด้วยนะ มันช่วยได้มากเลย นอกจากที่จะได้เรื่องของความน่ารักแล้ว น้องแมวยังรู้สึกอุ่นอีกด้วย
สำหรับคนที่อยู่คอนโดชั้นสูง ๆ หรือว่าว่าบ้านที่อยู่บนภูเขา ที่โล่ง เป็นบริเวณที่เป็นช่องลมพัดผ่านมาตลอด ช่วงหน้าหนาว ลมจะเย็นและแรงเป็นพิเศษ ดังนั้นควรดูว่าตรงจุดที่น้องอยู่นั้นมีลมโกรกเกินไปไหม อาจจะปิด หรือ แง้มหน้าต่างหรือประตูให้น้อยลง เพื่อช่วยบังลมให้น้องในช่วงกลางคืน หรือในวันที่ลมแรงๆ
ด้วยการที่ว่าหน้าหนาวนั้น มักจะมีโรคแทรกซ้อนมากมาย ดังนั้นการได้รับวัคซันที่ดี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้น้องแมวของคุณป่วยได้ยากขึ้นนั่นเอง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ป่วยเลยนะ มันอยู่ที่การดูแลของเจ้าของอีกทีนึงเหมือนกัน
เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายน้องแมวด้วยการพาน้องออกไปตากแดดที่ระเบียง หรืออุ้มไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ ที่มีแดดอ่อน ๆ ช่วงเช้าหรือช่วงบ่าย ๆ แก่ ที่กำหลังอุ่นพอดี ไม่ร้อนมากจนเกินไป
และนี่ก็คือการดูแลน้องแมวสุดที่รักของคุณให้อยู่กับคุณไปนาน ๆ โดยที่ไม่มีโรคเข้ามาเบียดเบียน