เกมบาคาร่าออนไลน์มีดีอย่างไร

       สำหรับเกมไพ่บาคาร่าออนไลน์ ถือได้ว่าได้เป็นเกมส์ดังระดับโลกไปแล้ว ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังได้รับความนิยมเล่นจากเหล่าผู้เล่นที่อยากเข้ามาสัมผัสกับการเดิมพันเสี่ยงดวง อีกทั้งยังมีเซียนการเดิมพันได้กอบโกยเงินจำนวนมากมาจากการเล่นบาคาร่าเป็นจำนวนมาก เพราะด้วยการที่มีวิธีการเล่นของตัวเกมนั้นง่าย และอีกทั้งยังมาพร้อมกับอัตราการจ่ายเงินที่คุ้มกับความเสี่ยงที่ลงทุนไป อีกทั้งมีความสะดวกสบายในการเข้าถึง ที่สามารถหาเล่นได้จากเว็บไซต์คาสิโนออนไลน์หลายค่าย โดยสามารถเล่นผ่านคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือแม้กระทั่งจะเล่นด้วยสมาร์ทโฟน เพียงเข้าหน้าเว็บไซต์หรือว่าโหลดแอพพลิเคชั่นลงเครื่องก็สามารถเล่นได้แบบง่าย ๆ แล้วนั่นเอง

ถ้าหากคุณอยากเอาชนะในการเดิมพันของเกมส์บาคาร่านั้น คุณจะต้องรู้ข้อมูลของตัวเกมส์ให้มากที่สุด สำหรับเกมส์บาคาร่าเองนั้น คุณอาจจะเห็นว่ามันก็เป็นเกมส์เสี่ยงดวงไพ่ธรรมดา แต่หารู้ไม่ว่าสำหรับกฎของเกมส์บาคาร่ามีรายละเอียดมากกว่านั้นเยอะพอสมควรเลย

โดยที่บาคาร่านั้น จะใช้ไพ่ทั้งหมด 8 สำรับ มารวมกันและทำการสลับไพ่ทั้งหมด จากนั้นนำใส่ถาดใส่ไพ่ ที่เรียกว่า ชู (Shoe)

ทางดีลเลอร์เป็นผู้ดำเนินเกมส์ให้ทั้งหมด โดยจะทำการแจกไพ่ให้กับทั้งสองฝั่งก่อน โดยจะเริ่มต้นแจกให้กับฝั่งของผู้เล่นก่อน 1 ใบและแจกไปที่ฝั่งของเจ้ามืออีก 1 ใบ และวนแบบนี้อีกครั้ง สรุปแล้วก่อนเริ่มเดิมพันจะได้ฝั่งละ 2 ใบ และสำหรับเกมส์บาคาร่า กฎจะเป็นไปตามนี้

สมัครบาคาร่า

1. ถ้าหากฝั่งผู้เล่นได้แต้มรวมกัน 0 – 5 แต้ม ฝั่งผู้เล่นจะต้องจั่วไพ่ใบที่ 3 เพิ่มเติม เมื่อฝั่งผู้เล่นจั่วไพ่เสร็จแล้ว จะมีกฎเพิ่มเติมของทางฝั่งเจ้ามือว่าเจ้ามือจะต้องจั่วไพ่เพิ่มเติม โดยที่

• ถ้าแต้มรวมได้ 0 – 2 แต้ม ให้เจ้ามือจั่วไพ่เพิ่มอีก 1 ใบ ตามฝั่งของผู้เล่น
• ถ้าแต้มรวมได้ 3 แต้ม ให้เจ้ามือจั่วไพ่อีก 1 ใบได้ ถ้าหากไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่นต้องไม่ใช่เลข 8
• ถ้าแต้มรวมได้ 4 แต้ม ให้เจ้ามือจั่วไพ่อีก 1 ใบได้ ถ้าหากไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่น อยู่ระหว่าง 2 ถึง 7
• ถ้าแต้มรวมได้ 5 แต้ม ให้เจ้ามือจั่วไพ่อีก 1 ใบได้ ถ้าหากไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่น อยู่ระหว่าง 4 ถึง 7
• ถ้าแต้มรวมได้ 6 แต้ม ให้เจ้ามือจั่วไพ่อีก 1 ใบได้ ถ้าหากไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่น อยู่ระหว่าง 6 ถึง 7
• ถ้าแต้มรวมได้ 7 แต้ม ให้เจ้ามืออยู่เฉย ๆ ไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม

2. ถ้าหากฝั่งผู้เล่น ได้แต้มรวม 6 – 7 ฝั่งผู้เล่นไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม จากนั้นให้ไปดูฝั่งเจ้ามือแทน

• ถ้าฝั่งเจ้ามือได้แต้ม 6 – 7 ก็ไม่ต้องจั่วเช่นกัน สามารถตัดสินแพ้ชนะได้เลย
• ถ้าเจ้ามือได้แต้ม 0 – 5 ให้จั่วไพ่เพิ่ม 1 ใบ ก่อนเริ่มคำนวณแต้มบนหน้าไพ่ ตัดสินแพ้ชนะ

3. ถ้าหากฝั่งของผู้เล่น หรือฝั่งเจ้ามือ แต้มรวม 8 – 9 ถ้าฝ่ายผู้เล่นหรือฝั่งของเจ้ามือได้ไพ่เมื่อรวมแต้มแล้วได้ 8 หรือ 9 ห้ามทั้งสองฝ่ายจั่วไพ่เพิ่มเติมอีก ให้นำแต้มตรงนั้นมาตัดสินแพ้ชนะทันที

เกมบาคาร่า

อัตราการจ่ายเงินของเกมส์บาคาร่า

สำหรับเรื่องของอัตราการจ่ายเงินของเกมส์บาคาร่านั้นถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เพราะมันมีโอกาสทำให้ผู้เล่นได้เงินรางวัลที่สูงขึ้น

1. Player อัตราการจ่ายคือ 1:1 ตัวอย่าง ถ้าลงเดิมพัน 100 บาท จะได้กลับมา 110 บาท
2. Banker อัตราการจ่ายคือ 1:0.95 ตัวอย่าง ถ้าลงเดิมพัน 100 บาท จะได้กลับมา 95 บาท หักค่าต๋งให้เจ้ามือ 0.5%
3. Tie อัตราการจ่ายคือ 1:8 ตัวอย่าง ถ้าลงเดิมพัน 100 บาท จะได้กลับมา 800 บาท
4. Player Pair อัตราการจ่ายคือ 1:11 ตัวอย่าง ถ้าลงเดิมพัน 100 บาท จะได้กลับมา 1100 บาท
5. Banker Pair อัตราการจ่ายคือ 1:11 ตัวอย่าง ถ้าลงเดิมพัน 100 บาท จะได้กลับมา 1100 บาท
6. Perfect Pair อัตราการจ่ายคือ 1:25 ตัวอย่าง ถ้าลงเดิมพัน 100 บาท จะได้กลับมา 2500
7. Any Pair อัตราการจ่ายคือ 1:5 ตัวอย่าง ถ้าลงเดิมพัน 100 บาท จะได้กลับมา 500 บาท

บาท

8. Big อัตราการจ่ายคือ 1:0.5 ตัวอย่าง ถ้าลงเดิมพัน 100 บาท จะได้กลับมา 50 บาท
9. Small อัตราการจ่ายคือ 1:1.5 ตัวอย่าง ถ้าลงเดิมพัน 100 บาท จะได้กลับมา 150 บาท
10. Bonus อัตราการจ่ายของโบนัสจะขึ้นอยู่กับแต้มที่ห่างกันของแต่ละฝั่งและคูณด้วยทุนที่ใช้ในการเดิมพันตานั้น

เมื่อคุณรู้แบบนี้แล้ว และเริ่มสนใจในการเล่นเกมส์บาคาร่าออนไลน์ขึ้นมา แนะนำให้คุณลองเข้าไปสัมผัสกับการเล่นเกมส์บาคาร่าด้วยตัวของคุณเอง พยายามฝึกฝนการเล่นมาก ๆ และนำสูตรการอ่านเค้าไพ่ และ สูตรเดินเงินต่าง ๆ นำมาประยุกต์ใช้ในการเดิมพันของคุณให้มากที่สุด ถ้าหากชำนาญแล้ว รับรองได้เลยกว่า การเล่นของคุณจะปลอดภัยมาก ๆ เล่นยังไงก็ไม่มีขาดทุนอย่างแน่นอน ถ้าหากมีทุนน้อยก็ไม่มีปัญหา เพราะการเล่นเกมส์บาคาร่าผ่านทางเว็บไซต์คาสิโนออนไลน์นั้นมีขั้นต่ำในการเดิมพันเริ่มต้นเพียงแค่ 5-10 บาท ต่อตาเท่านั้นเอง