มั่นใจว่าทุกคนมีเสื้อตัวโปรดที่ใส่ซ้ำ แจ็กเก็ตตัวโปรด หรือเดรสตัวโปรดที่ใส่แล้วดูดี มั่นใจ เลยชอบที่จะใส่ออกไปข้างนอกบ่อยๆไม่มีเบื่อ แต่ว่าก็ชอบพบคนรอบข้างทักว่า “ใส่เสื้อซ้ำตัวนี้อีกละ” “มีเสื้อตัวเดียวหรอ” หรือ “ใส่ซ้ำเป็นประจำซักบ้างปะเนี่ย” จนอายไม่กล้าหยิบมาใส่อีก ปัญหานี้ไม่ได้มีผลต่อความมั่นใจ ความชื่นชอบส่วนตัว หรืออิสระในการแต่งตัวเพียงแค่นั้น แต่ว่ายังเป็นเหตุให้เกิดการบริโภค fast fashion มากเกินจำเป็นด้วย หรือก็คือ ‘เสื้อผ้าตามกระแส’ ที่มีคุณภาพต่ำ พังง่าย เน้นใส่ไม่กี่ครั้งก็ตกเทรนด์ไป ด้วยเหตุว่าเป็นการดีไซน์จากกระแสที่มาเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆแล้วก็ออกคอลเล็กชันใหม่เรื่อยๆทำให้อุตสาหกรรมแฟชันหรือแบรนด์เสื้อผ้าบางแบรนด์ ถูกประณามเรื่องการทำลายสิ่งแวดล้อมจากการผลิตเสื้อผ้า fast fashion ที่มากเกินความจำเป็น ซึ่งเป็นการผลิตที่ทิ้ง carbon footprint เอาไว้บนโลกจำนวนมากมหาศาล ทั้งยังมีการกดขี่แรงงานอย่างไม่ยุติธรรมอีกด้วย
การรณรงค์งดบริโภคเสื้อผ้า fast fashion หรือเน้นบริโภคเสื้อผ้าอย่างยั่งยืน ก็เลยกลายเป็นที่พูดถึงกันในสังคมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมทั้งมีคนมีชื่อเสียงมากมายที่ออกมาเป็นกระบอกเสียงในประเด็นนี้ อย่างนักแสดงสาวชื่อดัง เอมมา วัตสัน ก็เคยออกมากล่าวว่า “การใส่เสื้อซ้ำผ้าที่ไม่ใช่แบรนด์เนมหรือเสื้อผ้าราคาไม่แพง ไม่ได้หมายความว่าคุณจน โปรดจำไว้ว่าคุณมีครอบครัวที่จำเป็นต้องเลี้ยงดู ไม่ใช่ทำให้คนอื่นพอใจตลอดเวลา”
รวมทั้งเนื่องจากว่าแคมเปญ #Wearวนไป ชวนให้ผู้คนกล้าใส่เสื้อซ้ำผ้า หรือกล้าลงรูปที่ใส่เสื้อตัวเดิมๆในโซเชียลมีเดียเยอะขึ้น วันนี้ ก็เลยอยากมาแนะนำแนวทางที่จะทำให้พวกเราจัดการกับเสื้อผ้าที่มีอยู่ได้ดีขึ้น จนถึงสามารถเอามาใส่วนไปได้หลายๆครั้ง เพื่อเป็นการลดการบริโภค fast fashion ที่ทำลายสิ่งแวดล้อมของโลกด้วย
Wearวนไป เสื้อผ้าแต่ละตัวมีเนื้อผ้าแตกต่างกันไป อย่างเช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ผ้าชีฟอง ผ้าโพลีเอสเตอร์ ฯลฯ ซึ่งแต่ละชนิดก็มีการดูแลรักษาที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการซัก การตาก หรือการจัดเก็บ บางทีก็อาจจะดูได้จากเครื่องหมายบนป้ายที่เสื้อผ้า เนื้อผ้าบางชนิดทนต่อแดดจัดๆได้ เนื้อผ้าบางประเภทตากแดดแรงแล้วจะสีจะซีด หรือเนื้อผ้าบางชนิดไม่ควรซักบ่อยครั้ง ด้วยเหตุว่าจะหดเร็ว เสื้อบางตัวควรจะกลับด้านซัก เพราะว่าลายสกรีนจะลอกไว ซึ่งการสังเกตชนิดของเสื้อผ้าที่เราใส่และก็ดูแลอย่างถูกวิธี จะมีผลให้ต่ออายุการใช้งานของเสื้อผ้าตัวนั้นให้อยู่ได้นานขึ้น
เดิมทีเราอาจจะใส่เสื้อซ้ำตัวโปรดกับกางเกงที่มีสีดำบ่อยๆทำให้มองดูแล้วรู้สึกเบื่อ อยากทิ้ง หรือมีคนทักว่าใส่ซ้ำ แต่ว่าเมื่อลองนำเสื้อตัวนั้นไปจับคู่กับเสื้อผ้าชิ้นอื่นดู เพิ่มเลเยอร์เข้าไปอีกนิดหน่อย อย่างเช่น เสื้อคลุมหรือเสื้อกั๊ก เพียงเท่านี้ก็จะรู้สึกเหมือนได้เสื้อใหม่ แฟชันใหม่ ที่ดูแปลกตามากยิ่งขึ้น จนคนจำไม่ได้ว่าเป็นเสื้อตัวเดิม
เคยรื้อตู้เสื้อผ้าออกมาแล้วสงสัยมั้ยว่า “เอ๊ะ นี่เราเคยซื้อเสื้อตัวนี้ด้วยหรอเนี่ย” เนื่องจากไม่เคยคัดออกมาใส่เลย นั่นเป็นเพราะว่าเวลาเราเก็บเสื้อผ้าในที่ที่มองไม่ค่อยเห็น เราจะลืมไปว่าเคยมีเสื้อผ้าตัวนั้นอยู่ และก็เผลอซื้อผ้าใหม่อยู่เรื่อยๆเพราะรู้สึกว่าไม่มีอะไรจะใส่แล้ว ทางที่ดีลองนำเสื้อผ้าพวกนั้นออกมาแขวนหรือพับเรียงกันใหม่ในให้มองเห็นง่าย เพื่อสะดวกต่อการทำมาใส่ให้บ่อยครั้งเพิ่มขึ้น
การเก็บก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ถนอมเสื้อผ้าให้ไม่พังหรือเก่าเร็วเกินความจำเป็น อย่างถ้าห้องหรือตู้เสื้อผ้าของเรามีความชื้นมาก การจัดเก็บแบบพับหรือกองเอาไว้ทับๆกัน อาจส่งผลให้เสื้อผ้าขึ้นราเป็นจุดดำๆได้ ซึ่งยากต่อการกำจัดออก แล้วก็ทำให้จำเป็นต้องทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้น พวกเราควรจะจัดเก็บในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก หรือแม้เสื้อผ้าตัวไหนแพง ได้แก่ เดรสหรือสูท ก็ควรจะจัดเก็บให้ดีเป็นพิเศษ ด้วยการใส่ถุงผ้าคลุมสูทโดยเฉพาะ
เสื้อผ้าบางตัวอาจมีผุพังไปตามกาลเวลา แต่ก่อนจะทิ้งลองดูก่อนว่าเราพอจะซ่อมแซมได้หรือไม่ บางตัวเพียงแค่เปลี่ยนแปลงซิป ปะรูที่ขาด เอาเอวเข้า ก็พอเพียงจะใส่ได้แล้ว หรือหากนำไปดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขให้เป็นเสื้อครอป กางเกงขาสั้น หรือเสื้อกล้ามได้ ก็ทำให้พวกเราไม่ต้องทิ้ง แถมยังได้เสื้อตัวใหม่โดยไม่ต้องซื้อเลย
ถ้าเสื้อผ้าที่มีอยู่ใส่ซ้ำไม่ได้จริงๆแต่ว่าก็ไม่ต้องการทิ้งหรือบริจาคด้วยเหตุว่าเสียดายของ ลองเอาไปปรับใช้เป็นอันอื่นต่อมองก็ได้นะ ในที่นี้มิได้หมายคือผ้าขี้ริ้วหรือเสื้อนอนเพียงแค่นั้น ถ้าเสิร์ชใน youtube หรือ pinterest ก็มีความคิดเห็นว่ามีไอเดียที่มาจากเสื้อผ้าเก่าๆเยอะแยะไปหมด อย่างเช่น กระเป๋าผ้า กระเป๋าใส่เหรียญ ผ้าคาดผม ผ้าที่เอาไว้สำหรับเช็ดมือ หรือของตกแต่งห้อง แม้ไม่สามารถที่จะ #Wearวนไป แต่ว่าเราสามารถใช้วนไปได้เหมือนกัน
ท้ายที่สุด อยากให้สังคมมองเรื่องการใส่เสื้อซ้ำให้กลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากทุกคนมีเสื้อผ้าตัวโปรดเป็นของตัวเอง ซึ่งการนำมาใส่บ่อยๆก็เป็นการตอกย้ำคุณค่าของเสื้อผ้าตัวนั้นได้อย่างดีเยี่ยม แล้วก็ก่อนบริโภคแต่ละครั้ง อาจตั้งคำถามกับคำว่า “ของมันต้องมี” เพราะว่าในที่สุดของที่เรามองว่าต้องมีนั้น อาจอยู่กับพวกเราได้เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆแต่ทิ้งผลกระทบต่อโลกเอาไว้ระยะยาว
อ่านบทความอื่นๆต่อที่ บาคาร่า ออนไลน์